เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการประกันอัคคีภัย

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการประกันอัคคีภัย

estate-152518_640

การทำประกันอัคคีภัยถือได้ว่าเป็นการประกันภัยที่คุ้มครองความเสียหาย ที่เกิดจากไฟไหม้ หรือภัยเพิ่มอื่นๆ ต่อทรัพย์สินที่เอาประกันภัย และเพื่อให้เกิดความคุ้มครองต่อเจ้าของทรัพย์สิน ซึ่งมีการจัดทำประกันอัคคีภัย และยังสามารถได้รับประโยชน์ในการทำประกันภัยที่เหมาะกับสภาพความเสี่ยง จึงจำเป็นต้องศึกษาทำความเข้าใจเกี่ยวกับความหมายรวมถึงเงื่อนไขและ ความคุ้มครองตลอดจนข้อยกเว้นต่างๆ ของกรมธรรม์ประกันอัคคีภัยอีกด้วย

การทำประกันอัคคีภัย จะได้รับค่าเสียหายเมื่อเกิดไฟไหม้

การทำประกันอัคคีภัย ที่จะได้รับค่าเสียหายนั้น ผู้เอาประกันภัยจะต้องแจ้งให้บริษัททราบเมื่อเกิดความเสียหายโดยด่วน และต้องส่งมอบหนังสือแจ้งรายละเอียดทรัพย์สินที่สูญเสียหรือเสียหาย ที่มีมูลค่าความเสียหายของทรัพย์สินนั้น ๆ โดยละเอียด และยังรวมถึงการเปลี่ยนแปลงความเสี่ยงต่างๆ ซึ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่ทำให้ความสำคัญของการประกันภัยถูกทำลายหรือเสียหาย นอกจากที่ระบุไว้ในตารางกรมธรรม์ ลูกค้าที่ทำประกันอัคคีภัยจะต้องแจ้งให้บริษัททราบล่วงหน้าด้วยเพื่อประโยชน์ในความคุ้มครองที่จะโอนตามไปด้วย

ขยายความคุ้มครองของการทำประกันอัคคีภัย

ผู้เอาประกันอัคคีภัยสามารถขยายความคุ้มครอง ไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงภัยต่าง ๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้ในความคุ้มครองพื้นฐานได้อย่างภัยธรรมชาติและภัยอื่น ๆ ซึ่งผู้ทำประกันอัคคีภัยจะต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยเพิ่มเติม ส่วนทรัพย์สินที่มีการเอาประกันภัยจากประเภทอื่นไว้แล้ว ผู้เอาประกันภัยจะสามารถเรียกร้องความเสียหาย จากการทำประกันอัคคีภัยได้ในจำนวนเงินที่เกินกว่าจะเรียกร้องได้ จากกรมธรรม์ประกันภัยที่ได้ทำไว้อยู่ก่อนหน้า

shepherds-chapel-660092_640

การขอทำประกันอัคคีภัย

ผู้ที่จะทำประกันอัคคีภัย จะต้องเล็งเห็นแล้วว่า สถานประกอบการ ร้านค้า หรือที่อยู่อาศัย หรือทรัพย์สินที่สามารถใช้งาน อย่างอาคาร โรงแรม สำนักงาน และห้างสรรพสินค้า ฯลฯซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากต่อเจ้าของทรัพย์สินนั้น ซึ่งภัยที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สิน และสร้างความเสียหายในมูลค่าที่สูงนั้นส่วนใหญ่จะมาจากการเกิดเพลิงไหม้นั่นเอง

เงื่อนไขและรายละเอียดการของประกัน

เหตุผลที่ต้องทำการประกันอัคคีภัย ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากไฟไหม้ รวมถึงภัยเพิ่มอื่นๆ ต่อทรัพย์สินที่เอาประกันภัย ซึ่งการประกันภัยจะสามารถคุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากภัยอื่นๆได้ อย่าง น้ำท่วม, ลมพายุ, ฯลฯ โดยการทำประกันอัคคีภัย สามารถใช้ได้กับทรัพย์สินที่มีการจัดทำประกันภัย เป็นความคุ้มครองความเสียหายจากไฟไหม้ โดยตรง และลูกค้ายังจะได้รับความคุ้มครองภายใต้กรมธรรม์ประกันอัคคีภัยอีกด้วย

หากทรัพย์สินที่ทำประกันอัคคีภัยไว้ได้รับความเสียหาย เนื่องจาก ไฟไหม้ หรือความเสียหาย จากภัยเพิ่มพิเศษที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย ฟ้าผ่า ฯลฯ ในระหว่างระยะเวลาที่ได้เอาประกันภัยตามที่ได้ระบุในตารางกรมธรรม์ บริษัทจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัยตามมูลค่าความเสียหายที่แท้จริง

สนใจข้อมูลประกันอัคคีภัยได้ที่นี่

ลักษณะของการเคลมประกัน

ลักษณะของการเคลมประกัน

การเคลมประกันเป็นสิ่งที่ผู้ทำประกันภัยรถยนต์ควรจะทราบข้อมูลเบื้องต้นไว้ เพื่อที่จะได้ส่งผลประโยชน์ที่คุ้มค่าต่อตัวผู้ทำประกันเอง ทั้งข้อมูลของกรณีต่างๆที่สามารถเคลมประกันได้หรือขั้นตอนของการเคลมประกัน และอย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า การเคลมประกันจะสามารถทำได้เมื่อมีการเกิดอุบัติเหตุหรือความผิดปกติกับตัวของรถยนต์ ทั้งภายในและภายนอกของตัวรถ ซึ่งบริษัทประกันภัยรถยนต์จะแบ่งการเคลมประกันออกเป็น 2 ลักษณะใหญ่ๆคือ

cars-710332_640

การเคลมประกันแบบสด

การเคลมประกันแบบสด คือการเคลมประกัน ณ จุดที่เกิดอุบัติเหตุ เช่น เมื่อเกิดเหตุรถชนกันและมีคู่กรณี หรือมีผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุนั้น ผู้ที่ทำประกันภัยรถยนต์ไว้จะต้องโทรแจ้งไปยังบริษัทที่ทำประกันภัยรถยนต์ซึ่งการแจ้งบริษัทประกันนี้จะมีวิธีการแจ้งที่แตกต่างกันตามแต่ละบริษัท และการแจ้งเจ้าหน้าที่จะต้องแจ้งตำแหน่งจุดเกิดเหตุให้ชัดเจน มีการบอกสถานที่ที่สามารถเห็นได้ชัด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันภัยรถยนต์สามารถเข้ามาดูแลเราได้เร็วที่สุด เมื่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันมาดูที่เกิดเหตุแล้ว เจ้าหน้าที่จะทำการประเมินสภาพของอุบัติเหตุ เก็บหลักฐาน เช่น การถ่ายภาพบริเวณที่เกิดอุบัติเหตุของรถที่ทำประกันภัยไว้ และร่องรอยจุดที่เกิดอุบัติเหตุบนรถของคู่กรณี และผู้ที่ทำประกันสามารถทำการแจ้งเคลมประกันรถยนต์กับเจ้าหน้าที่ได้ทันที ซึ่งในกรณีแบบนี้ เจ้าหน้าที่ประกันภัยจะออกเอกสารค่าใช้จ่ายสำหรับการซ่อมรถเพื่อให้ผู้ที่ทำประกันนั้นสามารถนำรถไปซ่อมยังศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถที่ได้ตกลงตามเงื่อนไขของประกันภัย หรือออกเอกสารสำหรับค่ารักษาพยาบาลให้แก่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่เกิดจากอุบัติเหตุนั้นๆ

pkw-22378_640

การเคลมประกันแบบแห้ง

การเคลมประกันลักษณะนี้ คือการเคลมประกันในรูปแบบที่เจ้าหน้าที่ไม่ต้องเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งมักจะเป็นอุบัติเหตุเล็กๆน้อยๆ และมักจะไม่มีคู่กรณี เช่น ขับรถชนประตูรั้วบ้าน หรือขับรถขูดกับขอบถนน อาจทำให้ตัวถังของรถเกิดการบุบหรือเกิดรอยถลอก รอยขีดข่วน ของสีบนตัวถังรถ หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ผู้ทำประกันจะสามารถนำรถเข้าไปซ่อมยังศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถที่ได้ตกลงตามเงื่อนไขของประกันภัยได้ก่อนที่กรมธรรม์จะหมดอายุ ซึ่งการเคลมประกันรูปแบบนี้ ผู้ทำประกันมักจะเลือกสถานที่ให้บริการซ่อมรถเป็นสถานที่ที่อยู่ใกล้บ้าน เพื่อความสะดวกในการเดินทาง โดยที่ผู้ทำประกันจะต้องมีเอกสารด้านกรมธรรม์ของบริษัทประกันภัยรถยนต์ สำเนาใบขับขี่ และสำเนาทะเบียนรถ ไปด้วย เพื่อใช้แสดงเป็นหลักฐานแก่ศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถนั้นๆ

อย่างที่กล่าวมาว่าการเคลมประกันจะแบ่งเป็น 2 ลักษณะด้วยกัน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ทำประกันเข้าใจและรู้ถึงขั้นตอนที่ควรปฏิบัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น เพื่อให้ผู้ทำประกันได้รับประโยชน์สูงสุดจากการทำประกันภัยรถยนต์

สนใจข้อมูลประกันภัยรถยนต์ได้ที่นี่

ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ มีข้อดีอย่างไร

ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ มีข้อดีอย่างไร

car-29645_640

ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ หรือที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันในชื่อ พ.ร.บ. เป็นประกันภัยรถยนต์ที่รถทุกคันต้องทำ เพื่อคุ้มครองและช่วยเหลือผู้ที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ และเพื่อเป็นหลักประกันให้กับโรงพยาบาลว่าจะได้รับค่ารักษาจากผู้ที่ประสบอุบัติเหตุทางรถ ตัวอย่างข้อดีของประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับคือ

เป็นประกันภัยที่รถทุกคันต้องมี

ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับหรือ พ.ร.บ. นั้น เป็นประกันภัยตามกฏหมายที่รถทุกคันต้องมีไว้ เพื่อช่วยในการคุ้มครองผู้ขับขี่รถยนต์เมื่อประสบอุบัติเหตุ ซึ่งผู้ประสบเหตุจะได้รับการคุ้มครองที่เท่าเทียมและเสมอภาคกัน

ไม่ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลก่อน

เพราะระบบของประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับเป็นประกันภัยที่ใช้ระบบเดียวกันทั่วประเทศ ทำให้มีขั้นตอนที่แน่นอน จึงเป็นหลักประกันให้กับโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลว่าผู้ประสบเหตุจากรถจะสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้

car-156839_640

เอกสารเป็นแบบเดียวกันทั้งประเทศ

อย่างที่กล่าวมาแล้วว่าประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับเป็นกฏหมายที่บังคับใช้ทั่วประเทศ และใช้ระบบเดียวกัน ทำให้แบบฟอร์มของเอกสารเป็นแบบเดียวกัน ซึ่งจะช่วยให้การดำเนินงานในขั้นตอนต่างๆของเจ้าหน้าที่เป็นระบบที่มีมาตรฐานและมีความสะดวกสบายมากขึ้น

ขั้นตอนการดำเนินงานต่างๆสะดวกมากขึ้น

เนื่องด้วยแบบฟอร์มและระบบการทำงานที่เป็นแบบแผนเดียวกันทั้งประเทศนั้น ทำให้ขั้นตอนการตรวจสอบเอกสารและการจ่ายเงินของเจ้าหน้าที่เป็นไปได้ง่ายขึ้น ซึ่งรวมไปถึงขั้นตอนการยื่นคำร้องขอรับเงินค่าเสียหายที่ใช้แบบฟอร์มเดียวกันทำให้มีความสะดวกมากขึ้น

มีสิทธิได้รับค่าเสียหายเท่ากันทุกคน

ผู้ที่ประสบอุบัติเหตุทางรถมีสิทธิที่จะได้รับเงินค่าเสียหายเท่าเทียมกัน ไม่ว่าผู้ประสบอุบัติเหตุนั้นจะเป็นฝ่ายที่ถูกหรือฝ่ายที่ผิด หรือจะเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณีก็ตาม

ford-149784_640

ลดปัญหาการรอผลพิสูจน์ทางกฏหมาย

เนื่องจากระบบของประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับนี้มีกองทุนสำรองในการจ่ายเงินชดเชยค่าเสียหาย และเงินชดเชยค่าเสียหายนี้ ทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับอย่างเท่าเทียบกัน ดังนั้นการยื่นคำร้องและรับค่าเสียหายจึงไม่ต้องรอผลพิสูจน์ทางกฏหมายซึ่งเป็นเรื่องที่มีความละเอียดและใช้เวลาที่นาน

ปรับเพิ่มค่าเสียหายได้

ต้นทุนการจัดการระบบของประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับนั้นลดลงเนื่องจากระบบมีความเป็นเอกภาพมาขึ้น ทำให้การจัดการมีความง่ายขึ้น รัฐจึงสามารถที่จะปรับเพิ่มเงินค่าชดเชยความเสียหายให้แก่ผู้ประสบอุบัติเหตุทางรถได้

ที่กล่าวมาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของข้อดีของประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ ซึ่งเป็นรูปแบบการประกันภัยรถยนต์ที่ช่วยคุ้มครองผู้ที่มีรถยนต์ เช่น ผู้ที่มีรถยนต์ส่วนบุคคล, รถจักรยานยนต์, รถยนต์โดยสาร, รถรับจ้าง, หรือรถบรรทุก เป็นต้น ทำให้ทุกคนที่เป็นเจ้าของรถมีสิทธิที่จะได้รับการคุ้มครองและสามารถร้องขอเงินชดเชยค่าเสียหายได้อย่างเท่าเทียมกันทุกฝ่าย

สนใจข้อมูลประกันภัยรถยนต์ได้ที่นี่

ข้อแตกต่างระหว่างประกันภัยรถยนต์แบบซ่อมศูนย์และซ่อมอู่

auto-95388_640

อย่างที่ทุกคนทราบกันแล้วว่า การทำประกันภัยรถยนต์จะสามารถเลือกสถานที่ซ่อมรถยนตร์เมื่อเกิดอุบัติเหตุได้ 2 ประเภท คือ ประกันภัยรถยนต์แบบเลือกซ่อมที่ศูนย์บริการ และประกันภัยรถยนต์แบบเลือกซ่อมที่อู่ ซึ่งทั้ง 2 ประเภทก็มีข้อดีและเสียที่แตกต่างกันไป แล้วแต่ความต้องการของผู้ทำประกัน ซึ่งข้อแตกต่างใหญ่ๆที่สามารถเห็นได้ของสถานที่ซ่อมรถยนต์ทั้ง 2 ประเภทนี้ คือ

การรับประกันอะไหล่แท้

เมื่อต้องซ่อมแซมรถ ผู้ทำประกันภัยรถยนต์ต่างก็ต้องการให้ผู้บริการนำอะไหล่ที่เป็นของแท้มาเปลี่ยนหรือมาซ่อมแซมให้ ซึ่งถ้าผู้ทำประกันภัยรถยนต์เลือกรับบริการซ่อมรถที่ศูนย์บริการ จะสามารถมั่นใจได้เลยว่าอะไหล่ที่เจ้าหน้าที่นำมาใช้นั้นเป็นอะไหล่แท้ที่ได้มาตรฐานจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์โดยตรง แต่การรับบริการซ่อมรถจากอู่ซ่อมรถทั่วไปอาจจะไม่สามารถรับประกันได้ว่าอะไหล่ที่ใช้นั้นเป็นของแท้ เนื่องจากอู่บางแห่งไม่ได้ติดต่อซื้ออะไหล่จากบริษัทผู้ผลิตโดยตรง

ราคาเบี้ยประกันภัยรถยนต์

การเลือกการประกันภัยแบบซ่อมที่ศูนย์ให้บริการย่อมเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าการซ่อมที่อู่ซ่อมรถ เนื่องจากค่าใช้จ่ายทั้งด้านอะไหล่ ค่าแรงงานของเจ้าหน้าที่ หรือค่าภาษี มีราคาสูงกว่า ทำให้ค่าเบี้ยประกันของการเลือกการประกันภัยแบบซ่อมที่ศูนย์จึงมีราคาที่สูงกว่าแบบซ่อมอู่ตามไปด้วย

auto-263990_640

ความสะดวกสบาย ใกล้บ้าน

ศูนย์ให้บริการส่วนใหญ่จะมีสาขาตั้งอยู่ตามแหล่งชุมชนหรือตามเมืองใหญ่ๆ ดังนั้นการที่จะเลือกสถานที่ที่จะรับบริการซ่อมแซมรถ จึงควรเลือกดูจากสถานที่ที่อยู่ใกล้บ้าน ถ้าหากบริเวณรอบๆนั้นไม่ได้เป็นแหล่งชุมชนหรือเมืองใหญ่ก็อาจจะไม่มีศูนย์บริการซ่อมรถอยู่ใกล้ๆ ซึ่งถ้าหากเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์และต้องนำรถไปซ่อมตามสถานที่ที่ระบุในประกันภัยรถยนต์ อาจทำให้การเดินทางเกิดความไม่สะดวกได้

ค่าบริการที่แตกต่างกัน

อย่างที่ทราบกันแล้วว่าค่าบริการของการซ่อมรถยนต์ที่ศูนย์บริการจะมีราคาที่สูงกว่าการซ่อมที่อู่ซ่อมรถ เมื่อเกิดกรณีที่ผู้ทำประกันต้องจ่ายส่วนต่างจากการรับบริการ ซึ่งอาจมาจากการไม่คุ้มครองของการประกันภัยบางประเภท ผู้ทำประกันแบบการซ่อมศูนย์ก็อาจต้องจ่ายค่าส่วนต่างนี้ในราคาที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับการซ่อมอู่

parking-470654_640

มาตรฐานที่แตกต่างกัน

สถานที่ที่ให้บริการซ่อมรถ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์ซ่อมรถหรืออู่ซ่อม ก็มีมาตรฐานการซ่อมและการให้บริการในแต่ละแห่งที่แตกต่างกัน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้เกิดจากความสามารถและความชำนาญของเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการ, ระยะทางจากตัวเมืองใหญ่ หรือระบบการทำงานในแต่ละแห่ง

ก่อนการเลือกสถานที่ที่จะรับบริการซ่อมแซมรถยนต์ตามเงื่อนไขของประกันภัยรถยนต์ ทางผู้ทำประกันจึงควรหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ พิจารณาจากสภาพแวดล้อมของที่อยู่อาศัย และปัจจัยอื่นๆ ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อประกันรถยนต์นั้นๆ

สนใจข้อมูลประกันภัยรถยนต์ได้ที่นี่

เงื่อนไขของการรับประกันภัยจากประกันอัคคีภัย

house-148033_640

เงื่อนไขของการรับประกันภัยจากประกันอัคคีภัย

ประกันอัคคีภัย มีรูปแบบถ้อยคำและข้อกำหนดเงื่อนไขของความคุ้มครองต่าง ๆ ที่ใช้คล้ายๆกันในแต่ละบริษัทประกันภัย

ซึ่งทรัพย์สินเอาประกันภัยจากการทำประกันอัคคีภัย ได้แก่ สิ่งปลูกสร้าง ตัวอาคาร เครื่องใช้สำนักงาน ข้าวของเครื่องใช้ในครัวเรือน เครื่องตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ วัตถุดิบ เครื่องจักรและอุปกรณ์ต่าง ๆ และสินค้าที่อยู่ในระหว่างผลิตรวมถึงที่ผลิตสำเร็จแล้ว เรียกได้ว่าการทำประกันอัคคีภัย สามารถใช้กับทรัพย์สินตั้งแต่บ้าน ไปจนถึงโรงงานอุตสาหกรรม และสถานประกอบกิจการทุกชนิด

การทำประกันอัคคีภัย ไม่คุ้มครองความเสียหายจากสงคราม

หากมีความเสียหายซึ่งเกิดจากสงครามหรือการรุกราน และการกระทำที่มุ่งร้ายของศัตรูต่างชาติ หรือการกระทำที่คล้ายสงคราม การแข็งข้อ การจลาจล การกบฏ การก่อความไม่สงบวุ่นวาย หรือการนัดหยุดงาน การปฏิวัติ การกระทำของผู้ก่อการร้าย การรัฐประหาร และการประกาศกฎอัยการศึก ฯลฯ ซึ่งการการทำประกันอัคคีภัย จะไม่คุ้มครองสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นนี้

การทำประกันอัคคีภัย ไม่คุ้มครอง ความเสียหายที่เป็นผลโดยตรง

การทำประกันอัคคีภัย จะไม่ทำการคุ้มครอง ความเสียหายที่เป็นผลโดยตรง อย่างการแผ่รังสี หรือมีการแพร่กัมมันตภาพรังสีจากเชื้อเพลิงหรือพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งมีสาเหตุเกิดมาจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ และยังรวมถึงการระเบิดของกัมมันตภาพรังสี หรือสิ่งอันตรายอื่นใดที่อาจเกิดการระเบิดในกระบวนการนิวเคลียร์ได้

home-158089_1280

การทำประกันอัคคีภัย จะไม่คุ้มครองความเสียหายจากการเผาทรัพย์สิน

ซึ่งการประกันอัคคีภัย ที่ถือเป็นการประกันวินาศภัยประเภทหนึ่ง ที่สามารถให้ความคุ้มครองสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งจะให้คุ้มครองความเสียหายอันเกิดจากไฟไหม้ ฟ้าผ่า รวมถึงการระเบิดของแก๊สหุงต้มที่ใช้ประโยชน์ตามบ้านที่มีผู้อยู่อาศัย หรือแก๊สสำหรับทำแสงสว่าง นอกจากนี้การทำประกันอัคคีภัย ยังสามารถคุ้มครองทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจากความร้อน หรือควัน ที่เป็นผลมาจากเพลิงไหม้ รวมถึงความเสียหายเนื่องจากน้ำที่ใช้ดับเพลิง และยังรวมถึงการปฏิบัติหน้าที่ในการดับเพลิงของเจ้าหน้าที่

ทรัพย์สินที่สามารถเอาประกันจากการทำประกันอัคคีภัยได้

เมื่อพูดถึงประกันอัคคีภัย ส่วนใหญ่คนมักจะนึกถึงการประกันภัยสำหรับสิ่งก่อสร้างอย่างบ้าน หรือทาวเฮาส์ ซึ่งที่จริงแล้วทรัพย์สินที่ลูกค้าสามารถทำประกันอัคคีภัยได้นั้นแบ่งออกได้คือ สิ่งปลูกสร้างที่ไม่รวมผืนดิน ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ที่ไว้สำหรับอยู่อาศัย โรงรถและอาคารย่อย และส่วนปรับปรุงต่อเติมอย่างห้องชุดสำหรับอยู่อาศัย และยังรวมถึงทรัพย์สินภายในของสิ่งปลูกสร้างต่างๆ เช่นเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ภายในบ้าน อุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน เครื่องเสียง เครื่องครัว เครื่องดนตรี ฯลฯ รมถึงทรัพย์สินอื่นๆ เพื่อการอยู่อาศัยของผู้เอาประกันภัยจากการทำประกันอัคคีภัย

house-576350_640

นอกจากนี้ผู้เอาประกันภัยจากประกันอัคคีภัยยังสามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มตามความจำเป็นได้อีกด้วย

สนใจข้อมูลประกันอัคคีภัยได้ที่นี่

ประกันภัยรถยนต์แบบซ่อมอู่ มีข้อดีข้อเสียอย่างไร

auto-586377_640

ประกันภัยรถยนต์แบบซ่อมอู่ มีข้อดีข้อเสียอย่างไร

สถานที่ที่ให้บริการซ่อมแซมรถยนต์เมื่อเกิดอุบัติเหตุนั้น ตามเงื่อนไขของประกันภัยรถยนต์จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆด้วยกันคือ การเลือกรับบริการที่ศูนย์บริการ และการเลือกรับบริการที่อู่ซ่อมรถทั่วไป ซึ่งทั้ง 2 ประเภทนี้จะมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ทำประกันภัยรถยนต์ ในครั้งนี้เราจะขอพูดถึงข้อดีและข้อเสียของการเลือกการประกันภัยรถยนต์แบบซ่อมอู่ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

 

ข้อดีของการเลือกการประกันภัยรถยนต์แบบซ่อมอู่

ferrari-70208_640

ราคาเบี้ยประกันถูกกว่า

อย่างที่กล่าวมาแล้วว่าการเลือกรับบริการซ่อมแซมรถยนต์ตามเงื่อนไขของประกันภัยรถยนต์มี 2 ประเภทด้วยกัน การเลือกซ่อมรถที่อู่ซ่อมรถจะมีค่าเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายให้บริษัทประกันถูกกว่าการเลือกซ่อมกับศูนย์บริการ เนื่องจากมีค่าภาษีและค่าแรงงานที่ถูกกว่า ทำให้เบี้ยประกันที่ต้องจ่ายถูกกว่าตามไปด้วย

เลือกอู่ใกล้บ้าน หรืออู่ที่มีมาตรฐานได้

อู่ซ่อมรถยนต์ไม่จำเป็นว่าจะเป็นอู่ที่ไม่มีมาตรฐานเสมอไป ถ้าหากคุณมีอู่ที่ไปใช้บริการเป็นประจำและมีความมั่นใจในฝีมือของเจ้าหน้าที่ที่นั่น หรือมีอู่ที่มีมาตรฐานอยู่ใกล้บ้านของคุณ คุณสามารถเลือกประกันภัยรถยนต์ที่สามารถรับบริการซ่อมแซมรถกับอู่นั้นๆได้ เพื่อความสะดวกสบายของคุณ

ยืดหยุ่น ต่อรองได้

อย่างที่ทราบกันว่าการรับบริการซ่อมรถจากอู่ซ่อมรถจะสามารถต่อรองราคาค่าบริการได้ ซึ่งจะช่วยให้ภาระการจ่ายค่าบริการลดลงในกรณีที่ผู้ทำประกันภัยรถยนต์ต้องจ่ายค่าบริการส่วนต่างเอง

รวดเร็วกว่า

การเลือกการประกันภัยรถยนต์แบบซ่อมที่อู่จะได้รับการบริการที่ค่อนข้างรวดเร็ว เพราะจำนวนอู่ซ่อมรถมีหลายแห่งให้เลือกตามความต้องการของผู้ซื้อประกัน ทำให้ผู้ซื้อประกันไม่ต้องต่อคิวนานในการรับบริการ

 

ข้อเสียของการเลือกการประกันภัยรถยนต์แบบซ่อมอู่

car-607927_640

ไม่สามารถรับประกันได้ว่าอะไหล่ที่ใช้เป็นอะไหล่แท้

เนื่องจากอู่ซ่อมรถทั่วไปจะไม่ได้สั่งสินค้าหรือติดต่อกับทางบริษัทผู้ผลิตรถยนต์โดยตรง ทำให้เราไม่อาจทราบได้ว่าอะไหล่ที่ทำมาใช้ซ่อมแซมรถของเราจะเป็นอะไหล่แท้ที่ผลิตจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์โดยตรงหรือไม่ การเลือกอู่ซ่อมรถจึงควรที่จะเลือกอู่ที่มีมาตรฐานและน่าเชื่อถือ

ซ่อมเสร็จแล้วเกิดปัญหา อาจไม่รับแก้ไข

เมื่อรับบริการซ่อมรถยนต์จากอู่ซ่อมรถแล้วเราไม่อาจแน่ใจได้ว่า รถที่ซ่อมมาจะมีสภาพการใช้งานเหมือนปกติหรือไม่ ซึ่งหากหลังการซ่อม รถยังมีอาการเสียอยู่ โดยปกติแล้วทางอู่ซ่อมรถทั่วไปจะไม่มีบริการแก้ไขหรือการรับประกันหลังการซ่อม

ที่กล่าวมาเป็นเพียงตัวอย่างของข้อดีและข้อเสียจากการเลือกการประกันภัยรถยนต์แบบซ่อมอู่ ดังนั้นก่อนที่จะเลือกสถานที่ในการซ่อมรถสำหรับการทำประกันภัยรถยนต์ ผู้ทำประกันจึงควรหาข้อมูลให้ดีก่อนเพื่อให้ได้รับการบริการที่ตรงตามความต้องการมากที่สุด

สนใจข้อมูลประกันภัยรถยนต์ได้ที่นี่

ประกันภัยรถยนต์ดีอย่างไร

ประกันภัยรถยนต์ดีอย่างไร

oldtimer-382196_640

หลายๆท่านที่มีรถยนต์และได้ทำประกันภัยรถยนต์ไว้แล้ว คงจะทราบถึงข้อดีที่มีมากมายของการทำประกันภัยรถยนต์ แต่สำหรับท่านที่กำลังคิดจะซื้อรถใหม่ หรือท่านที่กำลังคิดจะทำประกันภัยรถยนต์ อาจจะยังไม่ทราบว่าการซื้อประกันภัยรถยนต์นั้นมีข้อดีอย่างไร วันนี้เราจึงจะมาบอกถึงข้อดีของการทำประกันภัยรถยนต์ให้ท่านได้ทราบกัน

ท่านไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

เมื่อเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ สำหรับรถที่ได้ทำประกันภัยรถยนต์ไว้แล้วนั้น ท่านไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช่จ่าย ทั้งค่าซ่อมรถยนต์ในส่วนของท่านหรือส่วนของคู่กรณี หรือค่ารักษาพยาบาล เพราะทางบริษัทประกันภัยรถยนต์ของท่านจะเป็นผู้ช่วยดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายดังกล่าวนี้แทนท่าน และประกันภัยรถยนต์ยังคุ้มครองถึงความสูญเสียทางร่างกายของท่านด้วย

มีรถสำรองให้ใช้เมื่อรถของท่านอยู่ระหว่างการซ่อมแซม

ประกันภัยรถยนต์บางประเภทจะมีบริการให้ใช้รถสำรองขณะที่รถของท่านอยู่ในระหว่างการซ่อมแซม ซึ่งข้อนี้ถือเป็นข้อดีมากๆ เนื่องจากท่านที่ทำประกันภัยรถยนต์ประเภทนี้จะไม่ต้องกังวลว่าท่านจะเดินทางยังไงเมื่อรถของท่านถูกนำไปซ่อมแซมที่ศูนย์ซ่อมรถ ท่านจะสามารถเดินทางไปทำงานหรือไปสังสรรค์ด้วยรถยนต์สำรองได้เช่นเดิม

car-659582_640

ท่าน ไม่ต้องไกล่เกลี่ยเรื่องฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิดเอง

เมื่อเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ สิ่งที่หลายท่านได้พบคงจะเป็นเรื่องการไกล่เกลี่ยว่าฝ่ายใดถูกหรือฝ่ายใดผิด ปัญหานี้นับว่าเป็นปัญหาที่ซับซ้อนพอสมควร เนื่องจากผู้ที่จะไกล่เกลี่ยได้จะต้องมีความรู้ด้านกฎหมายของการขับขี่รถบนท้องถนน ซึ่งถ้าท่านได้ทำประกันภัยรถยนต์ไว้นั้น ท่านไม่ต้องกังวลเรื่องนี้เลย เพราะบริษัทที่ท่านทำประกันภัยรถยนต์จะส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญมาไกล่เกลี่ยและดูแลรถของท่านให้อย่างรวดเร็วและชำนาญ

กรณีรถหายหรือเกิดไฟไหม้ก็คุ้มครอง

กรณีที่รถของท่านเกิดหาย หรือเกิดไฟไหม้ ประกันบางประเภทนั้นได้คุ้มครองเหตุการณ์เหล่านี้ไว้ด้วยแล้ว ซึ่งจะช่วยให้ท่านไม่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายจำนวนมากแต่เพียงผู้เดียว เนื่องจากทางบริษัทที่ท่านทำประกันภัยรถยนต์จะจ่ายเงินชดเชยค่าเสียหายดังกล่าวให้ท่าน ซึ่งจำนวนเงินที่ท่านจะได้รับก็จะขึ้นอยู่กับวงเงินของเบี้ยประกันที่ท่านได้ทำกับประกันภัยรถยนต์ไว้

road-405938_640

ข้อดีดังกล่าวที่เราได้ยกตัวอย่างมานี้ เป็นเพียงข้อดีบางประการณ์ของการทำประกันภัยรถยนต์ เนื่องจากในปัจจุบันมีข่าวการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนจำนวนมาก ทั้งจากความประมาทและจากการขาดสติของผู้ขับขี่บนท้องถนนที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุต่างๆตามมาอย่างมากมาย การทำประกันภัยรถยนต์ก็ถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้ท่านได้รับความคุ้มครองทั้งรถยนต์ของท่านและความคุ้มครองชีวิตของท่านด้วย

สนใจข้อมูลประกันภัยรถยนต์ได้ที่นี่

เรียนรู้ข้อมูลก่อนการทำประกันอัคคีภัย

เรียนรู้ข้อมูลก่อนการทำประกันอัคคีภัย

ประกันภัยการก่อการร้าย

เพราะการเกิดอัคคีภัย คือเหตุการณ์ที่ไม่มีใครที่อยากให้เกิด แต่อัคคีภัยอาจเกิดขึ้นโดยที่ไม่รู้ตัวและไม่สามารถคาดเดาเหตุการณ์ล่วงหน้าได้ ซึ่งอัคคีภัยส่วนใหญ่จะมาจากสาเหตุ อุบัติเหตุ ภัยธรรมชาติ และความประมาท ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนนำมาต่อความสูญเสีย และเสียหายแก่ชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน ทำให้มีการทำประกันอัคคีภัย เพื่อรับรองและคุ้มครองความปลอดภัยในทรัพย์สินที่จะเกิดขึ้น

สาเหตุที่ต้องทำประกันอัคคีภัย

ส่วนใหญ่สาเหตุของการเกิดอัคคีภัยมักจะถูกพบว่า ความประมาทเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งที่ทำให้เกิดอัคคีภัยได้ ซึ่งมักจะเกิด เหตุกับอาคารบ้านเรือน ร้านค้า ที่อยู่อาศัย ซึ่งส่วนใหญ่มีความเสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้สูงทั้งนั้น ซึ่งการทำประกันอัคคีภัย จะทำให้ลูกค้าได้รับความคุ้มครองความสูญเสียรวมถึงความเสียหายที่เกิดจากเพลิงไหม้ ซึ่งการทำประกันอัคคีภัย ถือเป็นอีกหนึ่งหนทางในการเพิ่มความอุ่นใจ และยังทำให้เกิดความรู้สึกมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สิน

ประกันอัคคีภัย

กรมธรรม์ประกันอัคคีสำหรับที่อยู่อาศัย

กรมการประกันภัย ฉบับใหม่ที่จะให้ความคุ้มครองกับลูกค้าเฉพาะกับที่อยู่อาศัย หรือที่หลายคนเรียกกันว่า กรมธรรม์ประกันอัคคีภัยสำหรับบ้านที่อยู่อาศัย ซึ่งกรมธรรม์ฉบับนี้จะทำให้ผู้ที่เป็นเจ้าบ้านหรือ เจ้าของที่อยู่อาศัยได้รับผลประโยชน์ จากการทำประกันอัคคีภัยที่มีความเหมาะสม และเป็นธรรมมากขึ้น โดยจะมีความคุ้มครองเพิ่มเติม จากกรมธรรม์อัคคีภัยปกติอีกด้วย

ผู้มีสิทธิทำประกันอัคคีภัย

ผู้ที่สามารถทำประกันอัคคีภัย ต้องเป็นเจ้าของทรัพย์สินหรือผู้มีสิทธิ์ หรือมีผลประโยชน์ และมีส่วนได้ส่วนเสียในความเป็นจริง ในทรัพย์สินและสิ่งปลูกสร้างที่เอาประกันภัย ซึ่งสิ่งปลูกสร้าง สำหรับกรมธรรม์อัคคีภัย หรือสำหรับที่อยู่อาศัย ก็คือบ้าน ทาวน์เฮาส์ สำหรับอยู่อาศัย รวมถึงโรงรถ กำแพง ประตู รั้ว และห้องชุดสำหรับอยู่อาศัยในแฟลต หรือคอนโดฯ เพราะการประกันอัคคีภัยคือ การให้ความคุ้มครองในทรัพย์สินต่างๆของผู้เอาประกันฯ ไม่ว่าจะเป็น อสังหาริมทรัพย์ หรือ สังหาริมทรัพย์ที่อาจเกิดความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้เป็นหลัก

ข้อจำกัดความคุ้มครองภายใต้กรมธรรม์ประกันอัคคีภัย

ข้อจำกัดของความคุ้มครองที่อยู่ภายใต้กรมธรรม์ประกันอัคคีภัย อย่างการเกิดเหตุเพลิงไหม้ ไม่ว่าจะเป็นไฟไหม้ที่เกิดจากการระเบิดหรือไม่ก็ตาม และต้องเป็นการเสียหายที่เกิดขึ้นจากฟ้าผ่าโดยตรงเท่านั้น รวมถึงการระเบิดของแก๊สที่ใช้สำหรับทำแสงสว่าง หรืออุบัติเหตุไฟไหม้ที่เกิดจากแก๊สหุงต้มที่ไม่ใช่เพื่อการค้าหรืออุตสาหกรรม และยังมีความเสียหายที่เกิดจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่อาจทำให้บ้านพังในขณะดับเพลิง , ความเสียหายที่เกิดจากน้ำที่ใช้ในการดับเพลิง ฯลฯ

ประกันบ้าน

ทรัพย์สินที่ไม่สามารถเอาประกันอัคคีภัยได้ ก็คือรากฐานของสิ่งปลูกสร้าง อย่างเช่นที่ดิน เพราะจะไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด รวมถึงเสาเข็มที่ตอกลึกลงในดินด้วย

สนใจข้อมูลประกันอัคคีภัยได้ที่นี่

บริษัทประกันภัยรถยนต์ที่ดี

บริษัทประกันภัยรถยนต์ที่ดี

หากคุณกำลังคิดที่จะทำประกันภัยรถยนต์ ประกอบกับในปัจจุบัน บริษัทที่รับทำประกันภัยรถยนต์มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น จึงอาจจะทำให้คุณมีคำถามในใจขึ้นมาว่า บริษัทประกันภัยรถยนต์ที่ดีควรดูจากอะไร วันนี้เราจะมาบอกถึงบริษัทประกันภัยรถยนต์ที่ดี เพื่อจะใช้เป็นข้อมูลที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกทำประกันภัยรถยนต์กับบริษัทต่างๆ ซึ่งบริษัทประกันภัยรถยนต์ที่ดี ควรจะมีลักษณะดังนี้

dashboard-1856_640

มีความน่าเชื่อถือ

บริษัทประกันภัยรถยนต์ที่ดี ควรจะมีความน่าเชื่อถือของตัวองค์กร เราสามารถดูคร่าวๆได้จากขนาดของบริษัทที่ใหญ่และมีสาขาหลายแหล่ง, จำนวนบุคลากรที่ทำงาน หรือจำนวนผู้ถือหุ้นของบริษัทนั้นๆ ซึ่งจะเป็นตัวช่วยยืนยันความน่าเชื่อถือของบริษัทได้ในระดับหนึ่ง

มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก

บริษัทประกันภัยรถยนต์ที่มีผู้มาทำประกันจำนวนมาก ก็อาจเป็นข้อยืนยันได้ว่า บริษัทนั้นๆมีการบริการที่ดี หรือลูกค้ามีความไว้วางใจในการทำประกันภัย ทำให้มีผู้มาทำประกันภัยรถยนต์จำนวนมาก

มีรูปแบบประกันตรงตามความต้องการ

อย่างที่ทราบกันว่า ประกันภัยรถยนต์นั้นมีหลายรูปแบบและหลายประเภทตามแต่ละบริษัทจะเสนอขาย ดังนั้น บริษัทประกันภัยรถยนต์ที่ดีจึงควรจะมีรูปแบบและราคาของประกันภัยที่หลากหลาย เพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้บริการที่มีหลายประเภท

racing-car-71440_640

จ่ายค่าสินไหมทดแทนตรงเวลา

การจ่ายค่าสินไหมทดแทนที่ตรงต่อเวลา ก็ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากของบริษัทประกันภัยรถยนต์ เพราะผู้ทำประกันก็ย่อมต้องการค่าสินไหมทดแทนเพื่อนำมาใช้จ่าย ซึ่งจะช่วยให้ผู้ทำประกัยภัยไม่ต้องกังวลถึงค่าใช้จ่ายต่างๆที่จะตามมาเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

การให้ความรู้แก่ผู้ทำประกัน

การที่บริษัทประกันภัยรถยนต์ให้ข้อมูลแก่ผู้ทำประกันอย่างละเอียดและตรงไปตรงมา จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและเพิ่มความไว้วางใจให้แก่ผู้ที่มาทำประกัน ซึ่งจะช่วยทำให้ผู้ทำประกันเข้าใจข้อมูลเกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์ และสามารถเลือกประเภทของประกันภัยรถยนต์ได้ตรงตามที่ตนเองต้องการ

การให้บริการรวดเร็ว

การให้บริการที่รวดเร็วก็ถือเป็นสิ่งที่บริษัทประกันภัยรถยนต์ควรจะต้องมี เนื่องจากการบริการที่รวดเร็วจะช่วยลดระยะเวลาและขั้นตอนที่ยุ่งยากของผู้ทำประกันเมื่อประสบอุบัติเหตุได้ ทำให้ผู้ทำประกันได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น

toy-79028_640

มีระบบเทคโนโลยีที่พัฒนา

บริษัทที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีการพัฒนาอยู่เสมอ จะสามารถทำให้การทำงานในขั้นตอนต่างๆเดินหน้าได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะเป็นผลดีต่อตัวบริษัทประกันภัยรถยนต์เองและเป็นผลดีต่อผู้ทำประกันด้วย เนื่องจากผู้ทำประกันจะได้รับการบริการที่รวดเร็วมากขึ้น

จากที่กล่าวมานี้เป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งที่แสดงถึงลักษณะของบริษัทประกันภัยรถยนต์ที่ดี ซึ่งข้อมูลเหล่านี้อาจจะช่วยให้ผู้อ่านใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจเลือกทำประกันกับบริษัทประกันภัยรถยนต์ที่ดีได้ไม่มากก็น้อย

สนใจข้อมูลประกันภัยรถยนต์ได้ที่นี่

ทำประกันภัยรถยนต์แล้วทำไมเคลมประกันไม่ได้

ทำประกันภัยรถยนต์แล้วทำไมเคลมประกันไม่ได้

junk-289485_640

ผู้ที่ทำประกันรถยนต์มักมีจุดประสงค์หลักส่วนใหญ่ของการทำประกันรถยนต์คือ เพื่อต้องการเคลมประกันเมื่อเกิดอุบัติเหตุกับรถของตนเองได้ ซึ่งการเคลมประกันนี้จะเป็นไปตามเงื่อนไขของประกันภัยรถยนต์ตามที่ผู้ทำประกันได้ทำสัญญาไว้ แต่ก็มีผู้ทำประกันจำนวนไม่น้อยที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์แล้วทำการยื่นเรื่องเพื่อขอเคลมประกันไม่ได้ ซึ่งเหตุผลของการเคลมประกันไม่ได้นั้นอาจเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น

การกรอกแบบฟอร์มผิดหรือกรอกไม่ครบ

เอกสารแบบฟอร์มในการยื่นเรื่องขอเคลมประกันกับบริษัทประกันภัยรถยนต์เป็นส่วนสำคัญมาก เพราะในแบบฟอร์มจะมีส่วนต่างๆที่ให้ผู้ทำประกันกรอกข้อมูล เพื่อยื่นเรื่องให้เจ้าหน้าที่นำข้อมูลเข้าสู่ระบบต่อไป ซึ่งถ้าผู้ทำประกันกรอกข้อมูลผิดหรือกรอกไม่ครบ ก็จะทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถส่งข้อมูลเข้าระบบของบริษัทประกันภัยได้และไม่สามารถดำเนินการในขั้นตอนต่อไปได้

old-truck-51169_640

ส่งหลักฐานไม่ครบ

เอกสารส่วนใหญ่ที่บริษัทประกันภัยรถยนต์จะขอมักเป็นสำเนาเอกสารที่ผู้ทำประกันมีอยู่แล้ว ซึ่งเอกสารเหล่านี้จะถูกนำไปประกอบการพิจารณาและเป็นหลักฐานในการดำเนินการเคลมประกัน ซึ่งหากส่งเอกสารและหลักฐานไม่ครบก็จะทำให้เจ้าหน้าที่ดำเนินงานต่อไม่ได้

เงื่อนไขอยู่นอกเหนือกรมธรรม์

ประกันภัยรถยนต์แต่ละประเภทก็จะมีเงื่อนไขการคุ้มครองที่แตกต่างกัน ผู้ทำประกันควรจะทำการศึกษาเงื่อนไขการประกันให้ละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อประกันนั้น หากเกิดอุบัติเหตุและต้องการเคลมประกัน แต่อุบัติเหตุนั้นอยู่นอกเหนือกรมธรรม์ที่ตกลงกันไว้ ทางบริษัทประกันภัยรถยนต์ก็มีสิทธิที่จะไม่รับเคลมประกันนั้น

ไม่พกใบขับขี่

การขับขี่โดยไม่พกใบขับขี่หรือไม่มีใบขับขี่ถือเป็นความผิดทางกฏหมายอย่างหนึ่ง และหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นโดยที่ผู้ขับขี่ไม่ได้พบใบขับขี่มาด้วยนั้น ทางบริษัทประกันภัยรถยนต์ก็มีสิทธิที่จะปฏิเสธการเคลมประกัน ผู้ขับขี่จึงควรพกใบขับขี่และทำการต่อใบขับขี่ก่อนหมดอายุทุกครั้ง

car-112412_640

ขับรถโดยประมาท

การขับขี่รถโดยประมาทสามารถก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งการเกิดอุบัติเหตุเหล่านั้นทางบริษัทประกันภัยรถยนต์อาจจะปฏิเสธการรับเคลมประกันได้ เช่น การขับฝ่าสัญญาณไฟจราจร การเมาสุราขณะขับรถ หรือการขับรถสวนเลน

ไม่จ่ายเบี้ยประกัน

หากผู้ทำประกันไม่จ่ายเบี้ยประกันหรือจ่ายเบี้ยประกันไม่ครบ ไม่ว่าจะด้วยการลืมจ่ายหรือจงใจไม่จ่าย บริษัทอาจถือว่าผู้ทำประกันไม่ต้องการทำประกันต่อ และอาจปฏิเสธการรับเคลมประกันหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น

หัวข้อที่กล่าวมานี้เป็นเพียงเหตุผลส่วนหนึ่งที่บริษัทประกันภัยรถยนต์มีสิทธิที่จะปฏิเสธการเคลมประกันของคุณ และเหตุผลเหล่านี้เป็นเหตุผลที่คุณสามารถป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นได้ด้วยตัวคุณเอง ซึ่งจะช่วยให้คุณไม่ต้องโดนปฏิเสธการเคลมประกันที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

สนใจข้อมูลประกันภัยรถยนต์ได้ที่นี่