เปรียบเทียบประกันภัยรถยนต์ที่ดีที่สุดกับเรา
เปรียบเทียบ เช็คราคา ต่ออายุกรมธรรม์หรือปรึกษาประกันภัยรถยนต์พร้อมทั้งรับข้อเสนอประกันรถยนต์ที่ดีที่สุดจากเรา โดยลูกค้าสามารถดูข้อเสนอ ความคุ้มครอง และเลือกบริษัทประกันภัยที่ลูกค้าต้องการ พร้อมทั้งส่วนลดพิเศษสำหรับลูกค้าที่นี่ที่เดียว ลูกค้าสามารถเช็คราคาเบี้ยประกันรถยนต์ด้วยตนเองผ่านระบบออนไลน์ หรือสามารถติดต่อสอบถามผ่านเราโดยตรงเพื่อความสะดวกได้ที่ Hotline: 065-493-6595 ด้วยข้อเสนอที่ดีสุดจากบริษัทประกันภัยที่เป็นพันธมิตรกับเรากว่า 30 บริษัท ลูกค้าจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับข้อเสนอและความคุ้มครองรวมถึงราคาเบี้ยประกันภัยที่ดีที่สุดจากเรา
บริษัทประกันภัยชั้นนำที่เป็นพันธมิตรกัน A.U.S. Insurance Broker
สายด่วน Hotline
ประกันภัยรถยนต์แต่ละประเภทเป็นอย่างไร
การทำประกันภัยรถถือว่ามือความสำคัญมาก นอกจากเราได้ช่วยเหลือตัวเราเองใน การให้บริษัทประกันภัยมาช่วยแบกรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นแล้ว เรายังได้ช่วยเหลือสังคมด้วย ไม่ว่าการทำประกันภัยนั้นจะเป็นการทำประกันภัย พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 หรือการทำประกันรถยนต์ประเภทสมัครใจก็ตาม
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1
ประกัน ภัยรถยนต์ประเภทนี้จะให้ความคุ้มครองแบบครบถ้วนที่สุด ทั้งค่าเสียหายที่เกิดขึ้นในอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นความสูญเสีย/เสียหายต่อชีวิต อนามัย และ/หรือ ทรัพย์สิน ค่ารักษาพยาบาล ทั้งของฝ่ายผู้เอาประกันภัยและฝ่ายคู่กรณี
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2
ประกัน ภัยประเภทนี้จะรับผิดชอบคุ้มครองค่าเสียหายในกรณีที่รถยนต์ของผู้เอาประกัน ภัยสูญหายหรือเสียหายจากไฟไหม้ รวมถึงค่าเสียหายต่อชีวิต / ค่ารักษาพยาบาล และทรัพย์สินของ ฝ่ายคู่กรณีเท่านั้น
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+
ประกัน ภัยรถยนต์ประเภทนี้จะชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นในอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายต่อชีวิต / ค่ารักษาพยาบาล และทรัพย์สินของทั้ง ฝ่ายผู้เอาประกันภัยและคู่กรณี เฉพาะอุบัติเหตุที่มีสาเหต มาจากการชนกับยานพาหนะทางบกเท่านั้น
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+
ประกัน ภัยรถยนต์ประเภทนี้จะชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นในอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายต่อชีวิต / ค่ารักษาพยาบาล และทรัพย์สินของทั้ง ฝ่ายผู้เอาประกันภัยและคู่กรณี เฉพาะอุบัติเหตุที่มีสาเหต มาจากการชนกับยานพาหนะทางบกเท่านั้น
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3
ประกันภัยรถยนต์ประเภทนี้จะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็น ความเสียหายต่อชีวิต / ค่ารักษาพยาบาล และทรัพย์สิน กับ ฝ่ายคู่กรณีเท่านั้น
ลักษณะของการเคลมประกัน
ลักษณะของการเคลมประกัน
การเคลมประกันเป็นสิ่งที่ผู้ทำประกันภัยรถยนต์ควรจะทราบข้อมูลเบื้องต้นไว้ เพื่อที่จะได้ส่งผลประโยชน์ที่คุ้มค่าต่อตัวผู้ทำประกันเอง ทั้งข้อมูลของกรณีต่างๆที่สามารถเคลมประกันได้หรือขั้นตอนของการเคลมประกัน และอย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า การเคลมประกันจะสามารถทำได้เมื่อมีการเกิดอุบัติเหตุหรือความผิดปกติกับตัวของรถยนต์ ทั้งภายในและภายนอกของตัวรถ ซึ่งบริษัทประกันภัยรถยนต์จะแบ่งการเคลมประกันออกเป็น 2 ลักษณะใหญ่ๆคือ
การเคลมประกันแบบสด
การเคลมประกันแบบสด คือการเคลมประกัน ณ จุดที่เกิดอุบัติเหตุ เช่น เมื่อเกิดเหตุรถชนกันและมีคู่กรณี หรือมีผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุนั้น ผู้ที่ทำประกันภัยรถยนต์ไว้จะต้องโทรแจ้งไปยังบริษัทที่ทำประกันภัยรถยนต์ซึ่งการแจ้งบริษัทประกันนี้จะมีวิธีการแจ้งที่แตกต่างกันตามแต่ละบริษัท และการแจ้งเจ้าหน้าที่จะต้องแจ้งตำแหน่งจุดเกิดเหตุให้ชัดเจน มีการบอกสถานที่ที่สามารถเห็นได้ชัด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันภัยรถยนต์สามารถเข้ามาดูแลเราได้เร็วที่สุด เมื่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันมาดูที่เกิดเหตุแล้ว เจ้าหน้าที่จะทำการประเมินสภาพของอุบัติเหตุ เก็บหลักฐาน เช่น การถ่ายภาพบริเวณที่เกิดอุบัติเหตุของรถที่ทำประกันภัยไว้ และร่องรอยจุดที่เกิดอุบัติเหตุบนรถของคู่กรณี และผู้ที่ทำประกันสามารถทำการแจ้งเคลมประกันรถยนต์กับเจ้าหน้าที่ได้ทันที ซึ่งในกรณีแบบนี้ เจ้าหน้าที่ประกันภัยจะออกเอกสารค่าใช้จ่ายสำหรับการซ่อมรถเพื่อให้ผู้ที่ทำประกันนั้นสามารถนำรถไปซ่อมยังศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถที่ได้ตกลงตามเงื่อนไขของประกันภัย หรือออกเอกสารสำหรับค่ารักษาพยาบาลให้แก่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่เกิดจากอุบัติเหตุนั้นๆ
การเคลมประกันแบบแห้ง
การเคลมประกันลักษณะนี้ คือการเคลมประกันในรูปแบบที่เจ้าหน้าที่ไม่ต้องเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งมักจะเป็นอุบัติเหตุเล็กๆน้อยๆ และมักจะไม่มีคู่กรณี เช่น ขับรถชนประตูรั้วบ้าน หรือขับรถขูดกับขอบถนน อาจทำให้ตัวถังของรถเกิดการบุบหรือเกิดรอยถลอก รอยขีดข่วน ของสีบนตัวถังรถ หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ผู้ทำประกันจะสามารถนำรถเข้าไปซ่อมยังศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถที่ได้ตกลงตามเงื่อนไขของประกันภัยได้ก่อนที่กรมธรรม์จะหมดอายุ ซึ่งการเคลมประกันรูปแบบนี้ ผู้ทำประกันมักจะเลือกสถานที่ให้บริการซ่อมรถเป็นสถานที่ที่อยู่ใกล้บ้าน เพื่อความสะดวกในการเดินทาง โดยที่ผู้ทำประกันจะต้องมีเอกสารด้านกรมธรรม์ของบริษัทประกันภัยรถยนต์ สำเนาใบขับขี่ และสำเนาทะเบียนรถ ไปด้วย เพื่อใช้แสดงเป็นหลักฐานแก่ศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถนั้นๆ
อย่างที่กล่าวมาว่าการเคลมประกันจะแบ่งเป็น 2 ลักษณะด้วยกัน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ทำประกันเข้าใจและรู้ถึงขั้นตอนที่ควรปฏิบัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น เพื่อให้ผู้ทำประกันได้รับประโยชน์สูงสุดจากการทำประกันภัยรถยนต์
สนใจข้อมูลประกันภัยรถยนต์ได้ที่นี่