หลังจากเลือกซื้อบ้านโดยผ่านสินเชื่อธนาคาร (หรือจะจ่ายเงินก้อนก็ตามแต่) และจัดหาเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านเรียบร้อยแล้ว สิ่งต่อมาที่ควรคิดคำนึงให้ดีคือ ประกันภัยสำหรับที่พักอาศัย หรือ ประกันอัคคีภัย เพราะอุบัติเหตุที่เป็นเพลิงเผาทำลายบ้านเรือนในสังคมนั้นเกิดขึ้นได้ทุกวัน ธรรมชาติที่เริ่มแปรเปลี่ยนอย่างชัดเจน มีเหตุการณ์ตัวอย่างเป็นกรณีศึกษา รวมถึงเหตุการณ์ความไม่สงบของสถานการณ์บ้านเมือง อาจส่งผลให้บ้านของเราเกิดอุบัติเหตุที่คาดไม่ถึง แม้ร่างกายของสมาชิกจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่เม็ดเงินที่เปลี่ยนเป็นบ้านหรือทรัพย์สินอื่นได้รับความเสียหายทั้งหมด กว่าจะหาของมาทดแทนก็ต้องใช้เวลาเก็บออมกันใหม่ ดังนั้น ประกันภัย: อัคคีภัย จัดเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับบ้านในยุคนี้

ประกันอัคคีภัยแบ่งออกได้ 2 ประเภทคือ สิ่งปลูกสร้าง (ตัวบ้าน, ห้อง, คอนโด หรือห้องสำหรับพักอาศัย) และทรัพย์สินภายในสิ่งปลูกสร้าง (เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ภายในบ้าน หรือทรัพย์สินอื่นเพื่อการอยู่อาศัย) ความคุ้มครองพื้นฐานของประกันอัคคีภัยคือ กรณีไฟไหม้, กรณีฟ้าผ่าที่รวมถึงไฟฟ้าลัดวงจรที่เกิดจากฟ้าผ่า, การระเบิด, การชนหรือถูกทำลายจากยานพาหนะ สัตว์ที่ใช้ในงานขนย้าย ซึ่งเป็นของผู้อื่น, ภัยทางอากาศ อาทิ มีหินกรวดร่วงจากฟ้า และภัยที่เกิดจากน้ำ เช่น การรั่วไหลของน้ำ ระบบทำความร้อน การรั่วซึมของบ้านตามจุดต่าง ๆ หากในพื้นที่นั้นมีความเสี่ยงอื่น ๆ อีก ท่านสามารถซื้อความคุ้มครองอื่นได้ (น้ำท่วม, พายุ และแผ่นดินไหว เป็นต้น)

ในปัจจุบัน การซื้อประกันภัยไม่ใช่สิ่งเสียหายหรือไร้สาระ หรือเป็นสิ่งที่น่ารำคาญสำหรับตัวแทนขายประกันที่ตื้อให้คุณช่วยซื้อ ประกันภัยอาจมีข้อครอบคลุมที่ถูกใจคุณ และคุณควรซื้อเพื่อครอบครองสิทธิ์ชดเชยหากเกิดอุบัติเหตุกับบ้าน เบี้ยประกันที่จ่ายทุกเดือน นับเป็นการสะสมเงินเผื่อกรณีฉุกเฉินที่ไม่ทันคาดคิด ยิ่งกรณีอัคคีภัยอย่าง ไฟฟ้าลัดวงจร สามารถเกิดขึ้นได้ทุกวินาทีแล้ว ประกันภัย: อัคคีภัย จึงเป็นสิ่งที่บ้านทุกหลังควรซื้อกรมธรรม์ไว้ ด้วยฐานะของเจ้าของบ้านไม่ควรประมาทว่า ภัยอันตรายจะไม่เกิดขึ้นกับบ้านของคุณ เพราะภายในสิบปีข้างหน้าคุณอาจโชคร้ายได้เผชิญเหตุระทึกขวัญ ที่พรากทรัพย์สินไปเกือบทั้งหมด

สนใจข้อมูลประกันอัคคีภัยได้ที่นี่